โชคชะตา...อยู่เหนือความเชื่อ...ท้าทายพระเจ้า…ยิ้มเย้ยซาตาน
น้ำตากลั่นกรองมาจากหัวใจ น้ำตาพูดแทนหัวใจ
ปฏิกิริยาลูกโซ่ที่ถูกจุดชนวนด้วยน้ำตา อนุภาพจะร้ายแรงสักปานใด
ความเชื่อมั่นเท่านั้นที่สามารถบำบัดโรคร้ายในใจ
แต่จะหาได้จากที่ใด...กลางใจร้าวราน...มีอยู่ด้วยหรือ
นกเจ็บจะร่อนบินไปได้ไกลสักแค่ไหน ถ้าไม่มีสายลมคอยช่วยพยุงใต้ปีก
ชีวิตมีองค์ประกอบมากกว่าหนึ่ง...และหนึ่งนั้น......มีมากกว่าหนึ่ง...
คำร่ำลา ความปวดร้าวของผู้จากไป ความอาลัยของผู้อยู่
สายใยสุดท้ายแห่งความผูกพัน
นิยามชีวิตไม่เคยลงตัว ไม่ว่าจะใช้ทฤษฎีใด...
ชีวิตไม่เคยถูกกำหนดไว้ในแผนผัง ไม่เคยมีใครเคยพบลายแทงกับดักชีวิต
เวลาเท่านั้นที่อาจจะตอบได้หมดทุกคำถาม แต่ชีวิตจะรอคอยได้นานสักแค่ไหน
หลอกผู้อื่นได้...หลอกตัวเองได้...หลอกพระเจ้าได้...
เพราะวันวานไม่อาจหวนคืน วันนี้จึงเป็นเช่นนี้ พรุ่งนี้และวันต่อๆไป
เพียงแค่คิดก็ร้าวลึก...ก่อนแล้ว
ความทรงจำ สุสานแห่งปัจจุบัน บ้านนิรันดร์ของอดีต
รอคอย...วันนี้...พรุ่งนี้
สุสานใจไม่เคยร้างไร้ แผลแล้ว...แผลเล่า...ที่ขุดลงกลางใจเพื่อฝังกลบความหลัง
เพื่อที่จะลืม...เพื่อที่จะได้ไม่ต้องเจ็บปวด
ความรักขาวสะอาด...บริสุทธิ์ แต่เพราะมีรากเหง้ามาจากหัวใจจะ
ด่างจะดำไปบาง...จะเป็นไร
ลองค้นดูเถิดในหัวใจรกรักแต่
ต้องระวังสักนิดอาจจะมีอสรพิษซ่อนอยู่ในนั้นด้วยก็ได้
สุขในฝันกอดจันทร์ละเมอ...คืบเดียวเธอ...ใยห่างกันแสนไกล
ครั้งแล้ว ครั้งเล่า...ที่ความรักถูกเหยียบย่ำ ครั้งแล้ว ครั้งเล่า...ที่ความรักถูกลบหลู่ดูหมิ่น
...มนต์รักไม่เคยเสื่อมสิ้น...
ไม่ใช่แค่ไกลจนเกินฝันแต่ฝันนั้นยังไกลเกินกว่าจะจินตนาการ...
ไกลเกินกว่าที่จะวาดวิมานในอากาศ
ระหว่างความฝันกับความจริง...แค่เปลือกตาเท่านั้นที่กั้นไว้
สายน้ำแห่งความจริง...เชี่ยวกราดเกินกว่าความรัก...จะขวาง
ความรักบงการแล้ว...หัวใจก็พร้อมยอมสวามิภักดิ์...แล้วด้วย...เช่นกัน
หากน้ำตาพูดได้...คงครวญคราง...โหยไห้
ไหว้วอน...ร้องขอได้ โปรดเถิด...เจ็บเหลือเกินทรมานเหลือเกิน...
*** จากเรื่อง แสนยานุภาพแห่งการรอคอย : นันทวิสาร เขียน
สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2538