สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2538


นันทวิสาร :: เขียน


หน้า1 I หน้า2 I หน้า3 I หน้า4 I หน้า5 I หน้า6 I หน้า7 I หน้า8 I หน้า9 I หน้า10 I หน้า11

ถ้าชีวิตยึดติดกับจิตวิญญาณ
แล้วความรักเล่า...
จะยึดติดกับซากหัวใจที่ยับเยินแหลกราญ
...อย่างนั้น...นะหรือ

ระพินค่อยๆยืดแขนดันเธอออกจากพลังดูดดึงแห่งสัญชาติญาณ ด้วยแรงต้านทานแห่งสามัญสำนึกซึ่งเหลืออยู่น้อยเต็มทน
“ผมรักคุณ...อุมา รักมานานแล้ว และรักจนหมดหัวใจ รักอย่างที่ผู้ชายคนหนึ่งพึงรักผู้หญิงคนหนึ่ง แต่คุณกำลังพูดถึงสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ มันอยู่เหนือความจริงอุมา มันคือความปวดร้าวทั้งหมดของผม คุณกำลังตอกย้ำมัน...”
สองมือของเขาบีบเบาๆที่ต้นแขนของอุมา น้ำเสียงสั่นคลอ ดวงตาที่ร้าวลึกคู่นั้นของเขากำลังร่ำไห้

ครั้งหนึ่งพระเจ้าอาจจะเคยใส่หน้ากากซาตาน
ครั้งนี้มันถึงได้แอบอ้างเป็นพระเจ้า...ปลดปล่อย

“ได้โปรดเถิดอุมา ระงับอารมณ์เพียงชั่ววูบของคุณลงเสีย แล้วคิดใคร่ครวญดูใหม่บนบรรทัดฐานของความเป็นจริง อย่าหลอกตัวเองกันอีกเลย เราหนีไปไม่พ้นหรอก ตราบใดที่ทั้งคุณและผมยังคงอยู่ในสังคมแห่งนี้ สักวันมันจะต้องวกกลับมาหาเราจนได้ เชื่อผมเถอะ อุมา...”

น้ำมักจะไหลลงสู่ที่ต่ำเสมอ
น้ำตาก็เหมือนกัน

ระพินปาดน้ำตาที่ไหลเป็นทางข้างแก้มของอุมาด้วยสองมือที่สั่นระริก ซ้ำแล้วซ้ำเล่า... แต่มันก็ยังคงรินไหลออกมา...กรีดใจ เขาได้เฆี่ยนตีหัวใจตนเองเสียจนแตกยับ ด้วยสายแส้น้ำตาของเธอ... ซ้ำแล้วซ้ำอีก...
“ให้เราได้เจ็บช้ำกล้ำกลืนเสียแต่วันนี้ เพื่อที่จะได้ลืมมันในวันข้างหน้า ดีกว่าที่จะต้องทนอยู่กับมันไปจนชั่วชีวิต ผมรักคุณ...อุมา ผมไม่ได้พูด...แต่หัวใจของผมบอกคุณ...อุมา”
ในที่สุดความเป็นไปไม่ได้ก็ชนะ ชัยชนะที่แลกมาด้วยความจริง ความจริงที่สุดแสนจะปวดร้าว

หัวใจเป็นแค่ก้อนเนื้อเล็กๆ
หรือมีเหล็กไหลผสมอยู่
จึงทานทนได้ถึงเพียงนี้

ระพินไม่ได้ไปทำงานอีกเลยตั้งแต่วันนั้น เขาไม่สนใจอีกแล้วว่าอะไรจะเกิดขึ้น เขาไม่อาจสู้หน้าเธอ ไม่อาจที่จะเป็นตัวถ่วง ในการตัดสินใจของเธอ เขาไม่อาจเห็นแก่ตัวโดยใช้อารมณ์ของเธอเป็นเกาะกำบัง เขาละอายต่อพระเจ้า...เบื้องบนระพิน ได้เรียนรู้อีกครั้งถึงความหมายของคำว่ารักและการเสียสละเพื่อคนที่รัก ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นบ่อเกิดแห่งความทุกข์ทั้งมวล ที่เขาจะต้องเผชิญและอยู่กับมันไปอีกนาน

แค่ยอมที่จะตรอมตรม
ยอมที่จะสูญเสีย
ยอมที่จะมีชีวิตอยู่
แค่นั้นเอง...ให้
...ไม่มีอะไรยิ่งใหญ่ไปกว่านั้นอีกแล้ว

...ถ้าเพื่อคนผู้เป็นที่รัก

อาจเป็นพระประสงค์ของพระเจ้า ที่ปรารถนาให้ผู้ชายเช่นระพินต้องขมขื่นทุกทรมาน เพื่อที่จะได้รู้รสชาดและหลาบจำ โอ้...พระเจ้า ได้โปรดประทานพละกำลังให้กับเขาด้วยเถิด ระพินกำลังจะหมดแรง เขาเหมือนใกล้ตาย...พระเจ้าระพินรู้สึกเหมือน ลอยคว้างอยู่ในความมืดมน มองไม่เห็นอะไรเลย เขากำลังจะตรอมใจตายไปจริงๆอย่างนั้นหรือ และทันใดนั้นเอง เสียงเคาะประตู...ระพินได้ยินเสียงเคาะประตู จากภวังค์อันโหดร้ายทารุณระพินรวบรวมกำลังไปที่ประตูและผลักมันออกไป เขาแทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง เขายังคงค้างอยู่ในภวังค์นั้นอยู่อีกหรือ เพราะเบื้องหน้านั้นผู้หญิงคนหนึ่งกำลังยืนคลอน้ำตาอยู่ อุมา..อุมานั่นเอง
“พรุ่งนี้ อุมาจะต้องไปแล้ว อุมาอยากพบคุณเป็นครั้งสุดท้าย ให้อุมาเข้าไปได้ไหมคะ...”
ระพินไม่ได้ฝัน เขาพ้นจากภวังค์นั้นออกมาแล้ว ที่เห็นอยู่เบื้องหน้านั้นล้วนเป็นภาพแห่งความจริง ขอบคุณพระเจ้า... อุมาโผเข้ามาร้องไห้คร่ำครวญปานว่าจะขาดใจ ระพินกอดเธอไว้แน่น เขาไม่ได้นึกถึงอะไรอีกแล้วนอกจากความปรารถนา... ปรารถนาของเขาคนเดียว...คนเดียวเท่านั้น...

ณ มุมหนึ่งของหัวใจในด้านมืด
มีเงาดำแอบลอบอยู่
และเมื่ออารมณ์อยู่เหนือจิตสำนึก
ซาตานร้ายก็พร้อม...ตะบบเหยื่อ

ความทุกทรมานขมขื่นเมื่อก่อนหน้านี้ของระพิน ได้รวมตัวตกตะกอนและจมหายไปในก้นบึ้งของหัวใจจนหมดสิ้น ที่เหลืออยู่นั้นเป็นแต่แค่เพียง...ปรารถนาแห่งหัวใจ

ความรัก…มักจะตกเป็นเหยื่ออันโอชะของซาตาน
พระเจ้าทรงรู้ดี...
เพราะพระองค์คือผู้วางเบ็ด

เขาตื่นขึ้นมาในตอนเช้าของวันรุ่งขึ้น ไม่มีแม้แต่เงาของอุมา เขาต้องฝันไปแน่ๆ ระพินบอกกับตัวเอง มันจะเป็นความจริงไปได้อย่างไร แล้วกระดาษที่พับวางอยู่บนหัวเตียงแผ่นนั้นเล่า เขารีบหยิบมันขึ้นมาและอ่าน...

ลาก่อนค่ะระพิน สำหรับวันนี้จะเป็นการจากลาแค่ช่วงระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น ถ้าคุณมุ่งมั่นสร้างฝันของคุณให้เป็นจริง อุมาก็พร้อมที่จะก้าวเดินไปกับคุณในโลกแห่งความจริง
รักคุณ...อุมา

สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นไม่ใช่ภาพฝัน ทุกข้อความในกระดาษแผ่นนั้นยืนยันได้ มันเป็นความจริง...ความจริงที่ต้องชดใช้... ความขมขื่นปวดร้าวที่ตกตะกอนอยู่ในใจระพิน ได้ฟื้นคืนขุ่นข้นขึ้นมาอีกครั้งเขาสะอื้นฟูมฟายซบหน้าลงกับหมอน ทุบที่นอนเหมือนคนบ้าฟั่นเฟือน เขาไม่มีจิตใจที่จะทำอะไร เอาแต่ขังตัวเองอยู่ในห้องนั้น อยู่กับความรู้สึกที่ถูกทารุณกรรม ความรู้สึกที่ไม่อาจลบล้างรอยมลทินที่เขาได้สร้างขึ้น

โลกคับแคบเกินไปไม่อาจเก็บความทุกข์เอาไว้ได้ทั้งหมด
แต่หัวใจกลับไม่เคยที่จะเพียงพอ
อาณาจักรใจไร้ขอบเขต...หรือไฉน

ระพินไม่เหลือความภาคภูมิใจไว้ให้จิตวิญญาณได้ศรัทธาและยึดเหนี่ยวอีกต่อไป เขาอ่านข้อความในกระดาษแผ่นนั้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า หวังว่ามันจะทำให้เขากลับฟื้นคืนสติขึ้นมาอีกครั้งแต่ไร้ผล...

บางครั้งชีวิตช่างกล้ำกลืนตรอมตรม
เสียจนไม่มีที่ว่างเหลือไว้ให้จดจำความสุขใจ

ระพินติดอยู่ในโคลนตมแห่งความทุกท้อและสิ้นหวัง ไม่มีแม้ความเชื่อมั่นที่จะดิ้นดันเอาตัวเองขึ้นมาจากหล่มเลนที่สูบดึง... บั่นทอน...เขาได้รับจดหมายพร้อมที่อยู่ของอุมาในอีกอาทิตย์ต่อมา และจดหมายฉบับนั้นเองที่เรียกให้สามัญสำนึกของเขากลับมาอีกครั้ง พร้อมกับพลังใจที่เต็มเปี่ยม เขาจะจมปลักอยู่อย่างนั้นไม่ได้ เขาต้องลุกขึ้นมาเพื่อหยัดยืนท้าทายโชคชะตา ฝ่าฟันอุปสรรคขวากหนามทั้งปวง

ความเป็นไปได้มิได้ตกหล่นอยู่ตามริมทาง
หรือร่วงลงมาจากฟากฟ้าได้เอง
นอกจากจะต้องสร้างมัน ...

ระพิน...ที่รัก
อุมากลับถึงบ้านแล้วโดยสวัสดิภาพ อุมาคิดถึงคุณมาก ตอนนี้อุมายังไม่ได้ทำงาน อาทิตย์หน้าถึงจะไปรายงานตัวที่จังหวัดและเริ่มทำงาน คุณอยู่ทางนี้เป็นอย่างไรบ้าง อุมาไม่อยากให้คุณคิดมากเลย เพราะนั่นจะทำให้คุณท้อแท้หมดกำลังใจจะทำให้ความฝันของเราไม่อาจ เป็นจริงขึ้นมาได้ ไม่ว่าคุณจะเป็นคนขับรถหรืออะไรก็ตาม คุณยังคงเป็นคนที่อุมารัก ขอเพียงคุณเป็นคนดี มุ่งมั่นสร้างตัวสร้างฐานะ สักวันเราจะสมปรารถนา อุมาเชื่อว่าคุณต้องทำได้ อุมาจะคอยให้กำลังใจและช่วยคุณอยู่ทางนี้อีกแรง เราจะช่วยกันนะคะ...ระพิน เพื่ออนาคตของเราสองคน อุมาขอยืนยันในความรักของอุมาที่มีต่อคุณ...คนเดียว ตอบจดหมายของอุมาด้วยนะคะ
รักคุณคนเดียว...อุมา

อุมาที่รัก...
บัดนี้ผมได้ยืนหยัดขึ้นมาแล้วอีกครั้งหนึ่ง ด้วยกำลังใจจากคุณ ผมคิดถึงคุณมากเช่นกัน ไม่มีวันใดเลยที่รักที่ผมจะไม่คิดถึงคุณ ผมได้งานใหม่แล้วที่บริษัทแห่งหนึ่ง ผมจะพยายามสร้างตัวสร้างฐานะและอดออม เพื่อความฝันของผม ฝันที่จะได้ใช้ชีวิตร่วมกับคนที่ผมรัก และครอบครัวเล็กๆของเราจะอย่างไรก็ตาม ถ้าหากวันใดคุณได้พบผู้ชายที่คู่ควรกับคุณ และคุณรักเขา อย่าได้ลังเลคิดถึงผมเลยนะที่รัก ผมขอให้คุณตัดสินใจเลือกในสิ่งที่ดีกว่า และได้โปรดวางใจ ผมจะไม่ตำหนิคุณเลยที่รัก
รักเหลือเกิน...ระพิน

เขากับอุมาไม่ได้พบกันอีกเลยตลอดระยะเวลาหนึ่งปีกว่า มีเพียงจดหมายโต้ตอบระหว่างกัน ที่บอกเล่าถึงอารมณ์ความรู้สึกความคิดถึง เรื่องราวและสังคมใหม่ของอุมากับความฝันที่ลางเลือนของระพิน ซึ่งนับวันยิ่งห่างไกล ห่างกันจนเขาต้องถามตัวเองเสมอว่า ทั้งเขาและอุมาต่างกำลังหลอกตัวเองกันอยู่หรือเปล่า

นอกจากพระเจ้าแล้ว
ก็มีแต่เพียงความพยายามเท่านั้น
ที่สามารถสร้างปราฏิหารย์ได้...


ระยะหลังอุมาไม่ค่อยจะมีเวลาเขียนจดหมายถึงระพิน โดยอ้างว่างานยุ่ง นานๆจะเขียนมาสักฉบับ แต่เธอยังคงรักเขาอยู่ ตามความเข้าใจของระพินและข้อความในจดหมายของเธอทุกฉบับ ซึ่งก็มีอยู่เพียงไม่กี่บรรทัดในช่วงนั้นเองที่ระพิน ได้รู้จักกับผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งทำงานอยู่ที่เดียวกัน เธอชื่อเพ็ญ...เป็นพนักงานขายของหน้าร้านกินอยู่กับเถ้าแก่ เพ็ญเป็นคนซื่อๆคุยสนุก เปิดเผยจริงใจ เธอชอบระพิน เขารับรู้ได้ด้วยหัวใจ และความจริงก็เป็นเช่นนั้นอาจจะเป็นเพราะระพินเริ่มเบื่อหน่ายต่อความฝัน ที่ไม่มีวันจะเป็นจริง หรืออาจเป็นเพราะความห่างเหินของอุมา ที่ทำให้เขาเผลอใจ..

มีพบ...พลัดพราก
มีโหยหา...ลืมเลือน
มีเรืองรุ่ง...สูญสลาย
รักเป็นเช่นนี้...หรือมิใช่

ระพินกับเพ็ญเริ่มสนิทสนมกันมากขึ้น ความใกล้ชิดทำให้ระพินได้รู้จักเธอดีขึ้น...และรักเธอ รักอย่างเปิดเผยความรู้สึกบางอย่าง บอกกับเขาว่า ความรักระหว่างเขากับเพ็ญ จะมีแต่ความสมหวังและสมหวังเพียงอย่างเดียวเท่านั้นไม่ใช่ภาพสะท้อนที่ลวงตา ไม่ใช่ความฝันลมๆแล้งๆทุกอย่างสัมผัสได้ด้วยจริง
“พี่ต้องบอกเพ็ญหรือไม่ว่า พี่รักเพ็ญ”
ระพินกุมมือเธอไว้ และรู้สึกได้ทันทีว่าระหว่างเขากับเพ็ญไม่มีช่องว่าง ไม่มีกำแพงที่มองไม่เห็นมาขวางกั้นเอาไว้เลย
“มันยากนักหรือคะ ที่พี่จะพูดมันออกมา”
“ก็ได้...พี่รักเพ็ญ เพ็ญได้ยินชัดแล้วนะ...”
“ค่ะ...”
ระพินส่องพบตัวเองในดวงตาใสซื่อคู่นั้นของเธอ เขาสารภาพกับตัวเองหรือผู้ใดกันแน่ เขาไม่เคยเป็นตัวของตัวเองเช่นนั้นมาก่อนเลย รู้สึกโล่งสบายใจโดยที่ไม่ต้องคอยพะวงต่อจิตใต้สำนึกของตนเอง ไม่ต้องหวั่นเกรงต่อกฎเกณฑ์ทั้งปวง หัวใจของเขาพร้อมแล้วที่จะโบยบิน หัวใจดวงเดียวกันกับที่รักอุมา หัวใจดวงนั้น...หัวใจที่เคยอาดูร...ระพินตัดสินใจเล่าเรื่องราวระหว่างเขากับอุมาให้เพ็ญรับรู้ เพื่อที่จะได้ไม่ต้องเป็นกังวล ถ้าหากว่าเขาทั้งสองจะใช้ชีวิตร่วมกันในวันข้างหน้า หัวใจของเขาเหมือนกับว่าได้ถูกปลดปล่อย ถึงเวลาแล้วที่ระพินจะต้องเลือก ระหว่างความฝันกับความจริง ระหว่างความเป็นไปไม่ได้กับความสมหวังระหว่างดวงดาวที่อยู่ ไกลสุดฟากฟ้ากับดอกหญ้าที่อยู่ใกล้พียงแค่เอื้อม
“ขอเวลาพี่หน่อยนะเพ็ญ”
“พี่จะทำอย่างไรคะ เพ็ญไม่สบายใจเลย เพ็ญกำลังจะเห็นแก่ตัวเพราะรักพี่มากเกินไป”

อีกครั้งที่ความรักถูกกล่าวโทษ
อีกครั้งที่ความรักต้องตกเป็นจำเลย
และอีกครั้งที่สันชาติญาณ...ลอยนวล

เธอเป็นเพียงปุถุชนธรรมดาสามัญเท่านั้นเอง ระพินก็ด้วยเช่นกัน
"เป็นทางออกที่ดีที่สุดแล้ว สำหรับเราทุกคนโดยเฉพาะอุมา... เธอจะใช้ชีวิตร่วมกับพี่ได้อย่างไร พี่ยังมองไม่เห็นทางเลย จนป่านนี้แล้วอุมาคงได้คิด พี่เชื่อว่าเธอจะเข้าใจและยอมรับความจริงได้ พี่อยากให้เพ็ญคิดแต่เพียงว่า พี่ทำทุกอย่างเพื่อตัวพี่เอง เพ็ญจะรักคนที่เห็นแก่ตัวอย่างพี่ได้มั๊ย”
“นั่นทำให้เพ็ญยิ่งรักและบูชาพี่มากขึ้น เพ็ญยอมรับทุกอย่างสำหรับการตัดสินใจของพี่ ...”


สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2538


นันทวิสาร :: เขียน

ในวังวนชีวิตที่เวิ้งว้าง...ว่างเปล่า
มนุษย์ดิ้นรน...ตะเกียกตะกาย ไขว่คว้า...เพื่ออะไร

Positive Thinking Quotes and Saying