สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2538


นันทวิสาร :: เขียน


หน้า1 I หน้า2 I หน้า3 I หน้า4 I หน้า5 I หน้า6 I หน้า7 I หน้า8 I หน้า9 I หน้า10 I หน้า11

เวลา...ซาตาน...พระเจ้า
ต่างกันที่ความเชื่อ
เหมือนกันที่...ไร้ตัวตน

อรุณรุ่งเปิดฟ้า ดวงอาทิตย์โผล่พ้นทิวเขา ภายใต้กิ่งก้านใบที่ทอดยาวของต้นหางนกยูง ปรากฎร่างของชายชราผมหงอกขาวโพน โหยหาวันวานที่ไม่อาจจะหวนคืน ดอกหางนกยูงสีส้มที่ยังคงหล่นร่วง เหมือนจะหว่านประโลมให้กับความตรอมตรม อาหารเช้าที่จืดชืดกับแสงแดดหม่นๆริมระเบียง...อ้างว้างเปล่าเปลี่ยว

การพลัดพราก...ไม่จะจากไป...หรือตายจากรดชาดก็มิได้เจือจางไปกว่ากันเลย

ในคืนที่พระจันทร์ทอแสงเฉิดฉาย ยายกับตาตำข้าวในร่างเงาของเจ้ากระต่ายน้อย กับดวงดาวที่เปล่งแสงระยิบระยับ...กลับไร้ค่าขมขื่นเมื่อฝืนมอง

พระเจ้าไม่เคยลืมลูกแกะ...ที่พลัดหลงอยู่ในทุ่งแล้งของพระองค์เลย

สุขภาพของระพินเริ่มทรุดโทรมซูบผอม ชายชราไม่มีกำลังที่จะมีชีวิตอยู่อีกต่อไป เขาใช้เวลาที่เหลืออยู่ในช่วงสุดท้าย เขียนบันทึกเรื่องราวบางช่วงชีวิต ฝากไว้กับบุญทองเพื่อมอบให้ลูกชายคนเดียวของเขา คืนนั้นหลังจากที่บุญทองขอแยกตัวกลับไปบ้านที่อยู่ทางท้ายไร่นายแพทย์นพพรอยู่คนเดียว ที่กระท่อมซึ่งไม่ต่างไปจากสุสานเลย บรรยากาศวังเวงเงียบสงัด แปลกที่เขาไม่รู้สึกหวาดกลัวเลยแม้แต่น้อย แต่กลับรู้สึกอบอุ่นอย่างประหลาดเมื่อมองผ่านความมืดไปที่เนินดิน... อนุสรณ์สถานแห่งความเป็นนิรันดร์ พ่อของเขากับผู้หญิงที่รักคนนั้นกำลังหลับ นายแพทย์นพพรเปิดสมุดบันทึกของพ่อและเริ่มอ่าน...

อาจจะเป็นเพราะพระเจ้าเหงา
จึงได้สร้างโลกนี้ขึ้นมา
เพื่อให้เป็นโรงมหรสพของพระองค์
ทุกชีวิตเป็นเสมือนตัวละครตัวหนึ่ง
ที่ถูกกำหนดบทบาทไว้แล้ว...

สำหรับผู้หญิงที่สูงส่งและมีจิตใจที่ดีงามเช่นอุมา ระพินทำได้แค่เพียงรักและบูชา และเก็บความรู้สึกเหล่านั้นไว้ ในซอกที่ลึกที่สุดของหัวใจอย่างเจียมตัว แต่สำหรับเพ็ญ... ผู้หญิงที่พร้อมและเท่าเทียมกับเขา เขาไม่ใช่แค่เพียงรัก แต่ยังปรารถนาที่จะได้ใช้ชีวิตร่วมกับเธอ มันเป็นความหวังของระพิน เป็นความตั้งใจจริงของเธอและเขา อาจเป็นเพราะเขาพบเธอช้าเกินไป หรืออาจจะเป็นเพราะจิตใจที่เข้มแข็งเด็ดเดี่ยวในรักของอุมา หรืออาจเป็นเพราะระพินไม่อาจที่จะแยกเป็นสองร่างได้ โศกนาฏกรรมครั้งนี้จึงเกิดขึ้น ระพินได้แต่ตำหนิตัวเองที่ทำผิดต่อทุกคนที่เขารัก แต่เมื่อวันเวลาไม่อาจย้อนคืนกลับมาได้อีก เขาจึงขอเพียงให้ลูกชายได้เข้าใจ เพื่อที่บาดแผลครั้งนี้จะได้ไม่ต้องติดตัวลูกชายของเขาไปจนชั่วชีวิต ระพินยังหวังว่าวิจารณญาณที่ถูกต้องของลูกชาย จะไม่ทำผู้เป็นแม่ต้องเจ็บช้ำมากไปกว่าที่ได้รับอยู่

ความรัก...
ใครบ้างเล่า...ห้ามได้
เมื่อหัวใจบงการจะปวดร้าวสักเพียงใด
เจ็บช้ำสักแค่ไหน...
ก็ยังดิ้นรน...ไขว่คว้า

ระพินเป็นเพียงเด็กติดรถส่งของ ความรู้แค่ชั้นมัธยมต้น ขณะนั้นอุมาเป็นนักศึกษาฝึกงานบัญชีอยู่ที่บริษัทเดียวกัน เธอไม่ใช่คนสวย เสน่ห์ของอุมาอยู่ที่ความอ่อนหวานและจิตใจที่ดีงาม ร่าเริงไม่ถือตัว ระพินเฝ้าหมายปองดอกฟ้าอยู่เงียบๆ เขาพยายามมานะบากบั่น จากเด็กติดรถส่งของจนมาเป็นคนขับรถในที่สุด แค่นั้นเองสำหรับเขาผู้ยากไร้...เป็นได้อย่างมากก็แค่คนขับรถ เขาไม่เคยแสดงออกถึงความรู้สึกที่มีต่ออุมา ระพินกล้ำกลืนปกปิดซ่อนมันไว้ในใจ

ความรักงอกงามอยู่ในจิตนาการ..ผลิดอกแย้มบานอยู่ในความระทม

ต่อมาอุมาเรียนจบและได้รับบรรจุให้เป็นพนักงานของบริษัท ในขณะที่ระพินยังคงเป็นคนขับรถส่งของผู้ต่ำต้อยเจียมตัวเช่นเดิม หนทางไปสู่รักมืดมน มีแต่ความเป็นไปไม่ได้กับความเป็นไปไม่ได้...และความขลาดกลัว เขากำลังเอื้อมดาวทั้งที่เท้าทั้งสองยังคงย่างเหยียบอยู่บนดิน การทำงานทำให้เขาและเธอได้ใกล้ชิดกันบ้างในบางครั้ง แต่นั่นกลับยิ่งทำให้ระพินร้าวลึก อุมามักจะชวนเขาพูดคุยอยู่เสมอ บางครั้งระพินจะรู้สึกเป็นสุขจนลืมวรรณะคนขับรถของตนเอง แต่เขาหนีความจริงไปได้ไม่ไกล ที่สุดสิ่งที่อยู่ในใจมันก็ได้เริ่มกัดกร่อนอารมณ์ทีละน้อย...ทีละน้อย ทุกวัน...ทุกวัน

สุดฟากฟ้าสุดมือ...เอื้อมไป...ว่างเปล่า...

ระพินหันหน้าเข้าหาเหล้า ทุกวันหลังเลิกงานเขาจะดื่มแต่เหล้าเมาหัวราน้ำ กับเพื่อนที่ทำงานบ้าง คนเดียวบ้าง ไม่มีใครสนใจเหลียวแลในความผิดปกติของเขาเลย ไม่มีใครเลยจริงๆนอกจากเธอ... อุมาวันนั้นระพินเข้าไปเซ็นต์รับเงินเดือนที่ฝ่ายบัญชี ในห้องมีเพียงเขากับอุมาซึ่งทำหน้าที่จ่ายเงินและความเงียบ...ระทึก
“ทำไมเดี๋ยวนี้หัดดื่มเหล้าเมายา มีอะไรหรือเปล่าคะ ระพิน”
อุมาทำลายความเงียบด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวลจริงใจ หัวใจของระพินเริ่มตระหนกสั่นไหว
“ไม่มีอะไรหรอกครับ ผมแค่อยากดื่มก็เท่านั้น”
เท่านั้นเอง เขาจะทำอะไรได้มากไปกว่านั้นเล่า

กับความรักเร้นที่ร้าวลึก...หัวใจเหมือนละลายแหลกเหลว...อยู่ในอเวจี

“แต่อุมารู้จักคุณมานาน ไม่เคยเห็นคุณทำตัวเหลวใหลให้ร้ายตัวเองอย่างนี้มาก่อนเลย”
เธอมองเขาเหมือนจะค้นหาบางสิ่ง ระพินเหมือนตกเป็นจำเลยในขณะนั้น
“คนเรามันเปลี่ยนแปลงกันได้ ไม่ใช่หรือ” เขาไม่ต้องการคำตอบเลย ไม่ต้องการเลยจริงๆ
“ใช่ค่ะ คนเรานั้นเปลี่ยนแปลงกันได้เสมอ แต่ก็น่าจะเป็นไปในทางที่ดี คุณไม่น่าทำตัวให้ตกต่ำเช่นนี้เลย อุมามองคุณผิดไป อุมาเคยนึกชื่นชมคุณที่ไม่ย่ำอยู่กับที่ พยายามดิ้นรนหาสิ่งที่ดีกว่าให้ชีวิต เดี๋ยวนี้คุณเป็นคนขับรถ ไม่ใช่คนยกของเหมือนแต่ก่อน คุณโตขึ้น อุมาไม่เคยคิดเลยว่าคุณจะเปลี่ยนไปได้ถึงเพียงนี้”
ระพินรู้สึกอบอุ่นอยู่ข้างในลึกๆ และเริ่มกลัวใจตัวเอง

คิดถึง...ทั้งที่อยู่ตรงหน้า..โอ้...ความรักช่างลึกล้ำ...เร้นลับ

“เลิกเสียเถอะค่ะ อย่ามอมเมาตัวเองอีกเลย อนาคตยังอีกไกล มีอะไรที่อุมาพอจะช่วยได้บ้างมั้ยคะ บางทีถ้าคุณได้พูดได้ระบายเสียบ้าง จะทำให้สบายใจขึ้นนะคะ อุมายินดีรับฟังค่ะ...”
ระพินหวั่นไหวสะท้าน ไม่กล้าแม้แต่จะสบตาเธอ หัวใจของระพินมันอยากจะร้องทุกข์...แต่จะกับใครกันเล่า
“ขอบคุณ สำหรับความห่วงใยของคุณ ไม่ต้องกังวลหรอกผมไม่ทำให้เสียงาน อีกอย่างผมมันก็แค่คนขับรถ ไม่มีค่าอะไรที่คุณจะมาสนใจใยดี”

เพราะจิตวิญญาณไม่ยอมคุกเข่า...หัวใจจึงถูกเชือดเฉือน

“คนขับรถไม่ใช่คนหรืออย่างไรคะ เราต่างทำงานทำหน้าที่ของเรา เราเท่ากันค่ะ”
เธอพูดโดยไม่ได้หยุดคิดด้วยซ้ำไป คำพูดประโยดนั้นของอุมา ดั่งน้ำทิพย์ชะโลมรดลงกลางทะเลทรายอันแห้งแล้งอับเฉาในใจของระพิน ให้ฉ่ำชื่นขึ้นมาอีกครั้ง มันทำให้เขากล้า... กล้าที่จะมองลึกเข้าไปในดวงตาของเธอ

แขนต่างหากที่สั้นเกินไป...ดวงดาวไม่ได้ไกลเกินเอื้อมคว้า

“คุณคิดอย่างนั้นจริงๆหรือ”
ดวงตาของระพินคาดคั้น ดวงใจของเขาอ้อนวอน...รอคำตอบ
“ทำไมคะ อุมาพูดผิดตรงไหน คุณต้องรู้จักให้เกียรติตัวเองบ้าง คุณมีค่าเสมออย่างน้อยก็สำหรับตัวเอง ถ้าคุณเพียงแต่ทำตัวของคุณให้มีค่า หยุดกดขี่ตัวเองเถอะค่ะ”
คำพูดในวันนั้นของอุมา ระพินจำได้ทุกประโยค ทำให้เขามีกำลังใจที่จะสู้...สู้กับอะไรก็ได้... สู้กับสิ่งที่ไม่มีตัวตน... สู้กับจิตใต้สำนึกของตัวเอง... สู้กับมหิทรานุภาพแห่งความเป็นไปไม่ได้

ชัยชนะ...
แม้จะต้องแลกมาด้วยชีวิต
ก็ยังดีกว่าที่จะต้องมีชีวิตอยู่อย่างผู้แพ้
สูญเสีย...เจ็บปวด...ชั่วชีวิต

ระพินเลิกมอมเมาตัวเอง ตั้งหน้าตั้งตาทำงาน ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับอุมาเริ่มดีขึ้น ระพินเริ่ม ไม่รู้สึกประหม่าที่จะพูดคุยทักทายกับเธอ และเริ่มเรียนรู้ที่จะปวดร้าวอย่างเป็นสุข การที่ได้พบได้พูดคุย ได้อยู่ใกล้ๆคนที่รัก มันก็น่าจะเพียงพอแล้วมิใช่หรือสำหรับคนยากไร้เช่นเขา...


สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2538


นันทวิสาร :: เขียน

ในวังวนชีวิตที่เวิ้งว้าง...ว่างเปล่า
มนุษย์ดิ้นรน...ตะเกียกตะกาย ไขว่คว้า...เพื่ออะไร

Positive Thinking Quotes and Saying