บทที่ 1 ความหมาย และวัตถุประสงค์ ของการศึกษาปรัชญา
บทที่ 2 เครื่องมือของ ปรัชญาและ เหตุผล
บทที่ 3 มนุษยภาวะ
บทที่ 5 ความหมายและ ความจำเป็นของคุณธรรม
บทที่ 6 สังคมอุดมคติ
บทที่ 7 ความรู้ของมนุษย์
บทที่ 8 ปัญหาเรื่องความจริง และสิ่งที่เป็นจริง
บทที่ 9 เพศกับความคิด
บทที่ 10 มาร์กซ์ กับ พระพุทธเจ้า
หมายเหตุ
ไม่ทราบว่าเป็นงานค้นคว้าและวิจัยของผู้ใด หรือสถาบันใด ไม่ทราบแหล่งที่มา และผู้เขียนงานชิ้นนี้ พบโดยบังเอิญ อ่านแล้วเห็นว่าน่าจะมีประโยชน์ แก่ผู้ที่สนใจทางด้านปรัชญา จึงขอนำมาเผยแพร่ต่อ เป็นวิทยาทาน โดยตั้งหัวข้อเรื่องเองตามความเข้าใจ
บทที่ 9 :: เพศกับความคิด
จากแบบทดสอบ 9 ข้อในชั้นเรียน ผลของคำตอบจะปรากฏว่านักศึกษาได้ค่า C และ J ออกมา โดยที่หากได้ J มากกว่า C แสดงว่าจริยธรรมส่วนบุคคลวางอยู่บนพื้นฐานของการ “ความยุติธรรม” (justice) ซึ่งบางคนเรียกกว่าเป็นจริยธรรม “แบบบุรุษ” (masculine) ในทางกลับกัน หากได้ C มากกว่า J แสดงว่าจริยธรรมส่วนบุคคลวางอยู่บนพื้นฐานของการ “ใส่ใจ,ระมัดระวัง” (care) ที่บางคนเรียกกว่าเป็นจริยธรรม “แบบสตรี” (feminine)
แม้ว่าจะยังไม่ชัดเจนในการตัดสินว่าจริยธรรมแบบได้จะต้องเป็นของเพศใดเพศหนึ่งเท่านั้น เพราะไม่ว่าหญิงหรือชายก็สามารถมีการตัดสินใจได้ทั้งสองแบบ (บางคนอาจจะมี J และ C เท่ากัน) แต่ส่วนมากผู้ชายมักจะ J มากกว่า C และผู้หญิงก็มีจะมี C มากกว่า J
การวิจัยทางจิตวิทยามีสมมติฐานเกี่ยวความแตกต่างที่สำคัญของวิธีการคิดเกี่ยวกับความรู้และจริยธรรมที่น่าจะสัมพันธ์กับเพศ(gender) แต่ในความเป็นจริงสังคมส่วนมากเป็นสังคมที่ให้ความสำคัญกับเพศชาย ซึ่งนำไปสู่การลดทอนความสำคัญของการคิดและการกระทำแบบ “ผู้หญิง” ว่าเป็นรองวิธีการคิดแบบแรก (ผู้ชาย)
อย่างไรก็ตาม การวิจัยของนักจิตวิทยาบางคนก็เสนอว่า สิ่งที่ตรงกันข้ามกับต้นแบบที่ตรงไปตรงมา คือ การนำเอาสัญชาตญาณและอารมณ์ความรู้สึกเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการคิดด้วย
นอกจากนี้ยังมีผู้เสนอว่า สิ่งที่อยู่เหนือการตัดสินที่ยึดความยุติธรรมนั้นน่าจะเป็นแนวคิดที่เน้นความใส่ใจและความระมัดระวังในการตัดสินใจเป็นพื้นฐาน
ข้อเสนอทางจิตวิทยาที่ให้ความสำคัญกับอารมณ์ ความรู้สึกสัญชาตญาณ (intuition) และอัตวิสัย(subjective) นั้นมีความสำคัญในเชิงปรัชญาด้วย อย่างไรก็ตาม การคิดว่าเหตุผลจะต้องเป็นสิ่งที่ “บริสุทธิ์” (pure) เป็นการวางกรอบความคิดที่มาจากการกระทำและค่านิยมแบบบุรุษเพศ นั่นเอง